การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและปรียบเทียบระดับความคิดเห็นขอบุลากรต่อการ บริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา เมื่อจำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการ ทำงาน และขนาดสถานศึกษา และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียนของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 จำนวน 327 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบส้มภาษณ์แบบมี โครงสร้าง มีค่า IDC 0.80 - 1.00 และค่าความเชื่อมั่น 0.83 สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อย ละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทศสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปแปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน 2.การบริหารรามระบบบดูแลช่วยเหลือนักเรืยนของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 เมื่อจำแนกตาม เพศ โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมือจำแนกตามประสบการณ์ในการทพงานและขนาดสถานศึกษาโดย ภาพรวมพบว่าไม่แตกต่างกัน
3. แนวทางการบริหาวธรระบบบแลช่วยหลัหนักเรือนขอมของสมานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 พบว่า สถานศึกษามีการเก็บข้อมูลโดยการเยี่ยมบ้าน นักเรียน สถานศึกษามีการใช้แบบประเมินพฤติกรรมนักเรียนเพื่อคัดกรองนักเรียน สถานศึกษามี การจัดกิจกรรมให้นักเรียน รู้จักควบคุมตนเองและเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้อื่น สถานศึกษามีการประสานความร่วมมือระหว่าง ครู โรงเรียนและผู้ปกครองในการป้องกันและแก้ไข ปัญหาของนักเรียน และสถานศึกษามีการทำความเข้าใจ ชี้แจงนักเรียนและผู้ปกครอง ถึงความ จำเป็นที่ต้องส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาเข้าไปรับการช่วยเหลือ |