ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง | การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติ |
เจ้าของผลงาน | นายอัศวเทพ จันคลัง |
ปีการศึกษา | 2564 |
ประเภท | วิทยานิพนธ์ |
คณะ | คณะศึกษาศาสตร์ |
หลักสูตร | ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต |
สาขา | หลักสูตรและการเรียนการสอน |
จำนวนหน้า | 178 หน้า |
บทคัดย่อ (Abstract) | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติ 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติ รูปแบบการวิจัยครั้งนี้ (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนไตรภูมิวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 15 คน ปีการศึกษา 2563 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านเพื่อความเข้าใจ 30 ข้อที่มีค่าความสอดคล้องของข้อสอบและจุดประสงค์ (IOC) ตั้งแต่ 0.60 ถึง1.00 มีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.43 ถึง 0.80 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.20 ถึง0.57 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับโดยสูตรของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน (KR20) มีค่า 0.70 (2) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 6 แผน ซึ่งใช้เวลาเรียน 12 คาบเรียน และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติ มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค (Cronbach's Alpha Coefficiency) 0.65 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยสรุป พบว่า 1. ความสามารถการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติหลังเรียนคิดเป็น ร้อยละ 83.56 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ที่ตั้งไว้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ความพึงพอใจโดยรวมของนักเรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ย 4.37 |
เอกสารฉบับเต็ม (Full)
เฉพาะสมาชิกเท่านั้น