การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนกับหลังการเรียน และหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับ แบบฝึกเสริมทักษะ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังได้รับการ จัดการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 คน โรงเรียนบ้านละลม อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เครื่องมือ ในการวิจัยคือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน (2) แบบฝึกเสริมทักษะ จำนวน 6 ชุด (3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ (4) แบบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test (Dependent sample) ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลสันฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนใต้รูปแบบการ สอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องแรงในชีวิตประจำวัน หลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการ สอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องแรงในชีวิตประจำวัน หลังเรียนสูง กว่าเกณฑ์ที่กำหนดอย่ามีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 3. ระดับพึ่งพอใจของมักเรือนที่มีดีตรูปแบบการสอนแบบสืบเสารหาหวานรู้ วัมกัน แบบฝึกเสริมทักษะ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด |