การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงนวัดกรรมของผู้บริหารโรงเรียน มัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ และ(2) เพื่อเปรียบเทียบภาวะ ผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ จำแนกตา ตามขนาดของสถานศึกษา และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ประชากรได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ กลุ่ม น 350 คน กำหนด กลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครซี่และมอร์แกน และสุ่มตัวอย่าง แบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่า IOC. 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.721 สถิติวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน และ F - test (one-way ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการศึกษาระดับการผู้นำเช็งนวัดกรรรรรมหญิบวิหารโรธรรมภัถถอมศึกษา สังสังกัด สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ โดยภาพรวมและแต่ละด้านอยู่ในระดับมาก และ เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการสร้าง ด้านการมีวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรม 2. ผลการเปรียบเพื่อบพบว่า (1) การเปรียบเพื่อนภาวะผู้น้ำเช็ดกรรมวัดกรรมของวิหาร โรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ จำแนกตามขนาด สถานศึกษา โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (2) การ เปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงนวัดกรรมของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ จำแนกตามประสบการณ์การปฏิบัติงาน โดยรวมมีความคิดเห็นไม่ แตกต่างกัน ยกเว้น ด้านการสร้างเครือข่ายเชิงนวัดกรรมและด้านการคิดสร้างสรรค์นวัตกรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |