การจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของบุคลากร ต่อการใช้หลักธรรมมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ จำแนกตามระดับการศึกษา ตำแหน่งหน้าที่ และประสบการณ์ในการทำงาน และเพื่อศึกษาแนว ทางการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ กลุ่มตัวอย่างคือ บุคลากรสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน ส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ 229 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ มีค่า IOC ระหว่าง 0.80 - 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.91และแบบสัมภาษณ์ แบบมีโครงสร้าง สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทตสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเตียว ผลการวิจัยพบว่า 1. การใช้หลักธรรมมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดชัยภูมิโดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2. ผลการใครารพ์เปรียนเทียบการใช้หลักธรรมมาก็บาลของริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ จำแนกตามระดับการศึกษาและประสบการณ์ในการทำงาน พบว่าไม่แตกต่างกัน จำแนกตามดำแหน่งหน้าที่พบว่าแตกต่างกันอย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 3. แนวทางการใช้หลักธรรมมาก็บายของผู้บริหารสถานศึกษา สังวัดสำนักงางสรินสริมาร เรียนรู้จังหวัดชัยภูมิพบว่า ผู้บริหารกำหนดแนวทางบริหารจัดการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับของบุคลากร ยึดมั่นในหลักความถูกต้องดีงาม บริหารสถานศึกษาตามหลักเกณฑ์และพร้อมให้ตรวจสอบได้ เปิด โอกาสให้บุคลากรเข้ามีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา มุ่งเน้นประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับ บริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน |