การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับและการเปรียบเทียบระดับการบริหารงานกลุ่ม บริหารทั่วไป จำแนกตามเพศ สาชาวิชา ประสบการณ์ในการทำงาน และเพื่อศึกษาแนวทางการ บริหารงานทั่วไปของโรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนครราชสีมาปัญญานุกูล จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 97 คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา อยู่ระหว่าง 0.60 -1.00 และมีค่า ความเชื่อมั่น 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน การทดสอบค่าที่ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพและแนวทางการบริหารงานบริหารทั่วไปโรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล จังหวัด นครราชสีมา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2. การเปรียบเทียบสภาพและแนวทางการบริหารงานบริหารทั่วไปของโรงเรียนครราชสีมา ปัญญานุกูล จังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามเพศ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ยกเว้นด้าน งานชุมชนสัมพันธ์และภาคีเครือข่าย มีความคิดเห็นแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 05 และ จำแนกตามสาขาวิชา จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงานโดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. แนวทางการบริหารงานบริหารทั่วไปของโรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล จังหวัด นครราชสีมา สรุปได้ดังนี้ สถานศึกษาควรมีการจัดทำการสำรวจงานด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา สร้างค่านิยมในการทำงานโดยเน้นให้เจ้าหน้าที่งานสารบรรณมีความกระตือรือรั้นและพัฒนาตนอยู่ เสมอ มีการจัดระบบการเก็บเอกสารและการค้นหาข้อมูลที่ทันสมัย ประชาสัมพันธ์โรงเรียนจัดทำ แฟ้มสารนิเทศภาพข่าวและภาพกิจกรรมอย่างเป็นระบบ เน้นให้เจ้าหน้าที่งานโสตทัศนูปกรณ์ ให้บริการอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนดูแลและรักษาความสะอาด และ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชุมชนร่วมกับสถาบันการศึกษาอื่น |