การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่ใช้เทคนิค STAD ร่วมกับ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80:08 และ (2) เพื่อเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างผลการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ใช้เทคนิด STAD ประชากรได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนเขตตำบลโอโล อำเภอภูเชียว จังหวัดชัยภูมิ 4 โรงเรียน จำนวน 84 คน กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน บ้านหนองแวง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบบบกลุ่ม (Cluster random sampline) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับแผนการ จัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง กับข้อคำถามและ จุดประสงค์ (IOC) มีค่าตั้งแต่ 0.60-1.00 และแบบทดสอบหลังเรียนมีค่าความ เชื่อมั่น เท่ากับ .74 โดยใช้วิธี Kuder Richardson 20 (KR-20) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สถิติทดลอบ t (dependent sample) ผลการวิจัยพบว่า 1. แผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยใช้เทคนิค STAD สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80:80 (Er:E)) ค่าเท่ากับ 88.54:83.15 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยใช้เทคนิค STAD มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติติที่ระดับ .05 |