การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาระดับและเปรียบเทียบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน ตามความคิดเห็นของบุคลากรจำแนกตาม ตำแหน่ง และขนาดของสถานศึกษา และเพื่อ ศึกษาแนวทางในการพัฒนาการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาสังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ กลุ่มตัวอย่างคือ บุคลากรของสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน ส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ 226 คน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบส้มภาษณ์แบบมี โครงสร้าง สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า ที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการ เรียนรู้จังหวัดชัยภูมิ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ใน ระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา รองลงมาคือ ด้านการรู้จักนักเรียน เป็นรายบุคคล ด้านการส่งต่อ ด้านการส่งเสริมพัฒนานักเรียน และด้านการคัดกรองนักเรียน ตามลำดับ 2. การบริหารงานระบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาสังสักสัวสำนักงางส่ง เรียนรู้จังหวัดชัยภูมิตามความคิดเห็นของบุคลากรจำแนกตามตำแหน่ง และขนาดของสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
3. แนวทางในการพัฒนาการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน (1) ด้านการรู้จัก นักเรียนเป็นรายบุคคล ควรดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างจริงจัง แต่งตั้งผู้รับผิดชอบ และการเก็บข้อมูลนักเรียนทุกคนอย่างเป็นปัจจุบัน (2) ด้านการคัดกรองนักเรียน ควรนำข้อมูลผู้เรียน รายบุคคล มาคัดกรองเพื่อแบ่งกลุ่มผู้เรียนตามเกณฑ์การแบ่งกลุ่ม (3) ด้านการป้องกันและแก้ไข ปัญหา ควรให้ความรู้ต่อประเด็นปัญหาของนักเรียนเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำได้ (4) ด้าน การส่งเสริมพัฒนานักเรียน ควรจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามความสนใจเพื่อปลูกฝังความรับผิดชอบ ต่อสังคม และ (5) ด้านการส่งต่อ ควรมีการประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เกี่ยวของกับ ปัญหาของนักเรียน |