การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิติบัติงานของครู่โรงเรียนใน ศูนย์เครือข่ายหัวยแถลง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 ใน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ ด้านการยอมรับนับถือ ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่ การงาน และด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน และ (2) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ของครูโรงเรียนในศูนย์เครือข่ายหัวยแถลง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 2 จำแนกตามเพศ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน กลุ่มประชากร ได้แก่ ครูโรงเรียนในศูนย์เครือข่ายหัวยแถลง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 2 ปีการศึกษา 2564 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 165 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน ใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบ มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ค่าดัชนีความสอดคล้อง .80-1.00 และค่าความเชื่อมั่น .89 สถิติ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที วิเคราะห์ความ แปรปรวนแบบทางเดียว และวิธีของเชฟเฟ้ ผลการวิจัยพบว่า 1. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนในศูนย์เครือข่ายห้วยแถลง 1 สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ย จากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้าน ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ด้านการยอมรับนับถือ และด้านความรับผิดชอบ ตามลำดับ 2. ผลการเรียบเพื่อบแรงจูงใจในการปติงานของหนึ่งหญิงเรียศูนท์เครื่อข่ายหัวยหัวยแถลง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 พบว่า ครูที่มีเพศ และ ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานต่างกัน มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนครูที่มีวุฒิการศึกษาต่างกัน มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่ แตกต่างกัน |