การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทืยบระดับการบริหารงานเทคโนโลยี สารสนเทศของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามตำแหน่ง ขนาตสถานศึกษา และอายุราชการ และ เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารงานเทคโนโลยีสารสนเทศของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 กลุ่มดัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครูในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 จำนวน 327 คน เครื่องมือการวิจัย เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง มีค่า 10C 0.80 - 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.73 สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบื่อแบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารงานเทคโลโลยีสารสินทศของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน 2. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบการบริหารงานเทคโนโลยีสารสนเทศของผู้บริหาร สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 4 ทั้งโดยภาพรวมราย ด้านและรายข้อ เมื่อจำแนกตามดำแหน่งและขนาดของสถานศึกษาพบว่า แตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อจำแนกตามอายุราชการพบว่าไม่แตกต่างกัน
3. แนวการบริหารงานเพคโลโลก็สารถนทศของผู้หน้าบวิหารสถามศึกษา สังกัด พื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 พบว่า (1) สถานศึกษาต้องทำการสนับสนุน งบประมาณด้านเทคโนโลยีสารสินเทศและสื่อสารเพื่อการเรียนการสอน ประสานเครือข่ายจากชุมชน องค์กรภาครัฐและเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารในการจัด การศึกษา และ (2) สถานศึกษามีการติตตาม ประเมินผล มีระบบอินเทอร์เน็ต มีห้องคอมพิวเดอร์และ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศแยกออกมาอย่างชัดเจน มีคอมพิวเตอร์เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน ส่งเสริม ครูผู้สอนผลิตสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ใช้ในการเรียนการสอน ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เทคโนโลยี สารสนเทศการศึกษาในการเรียนรู้และฝึกทักษะ มีคลังแหล่งเรียนรู้ให้บริการความรู้กับชุมชน เผยแพร่ ผลงานสู่สาธารณชนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ |