การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตาม ตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และขนาดของสถานศึกษา ประชากร ได้แก่ ผู้บริหาร สถานศึกษาและครูผู้สอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาษามัธมศึกษา นครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 347 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางเครจขี่และมอร์ ส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีระดับความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน F-test และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษานครราชสีมา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการบริหารงานบุคคล รองลงมา ได้แก่ ด้านการบริหารงานวิชาการ และด้าน การบริหารงานงบประมาณ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดได้แก่ ด้านการบริหารงานทั่วไป 2. การเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาชั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และ ขนาดของถานศึกษา 2.1 การเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามตำแหน่ง พบว่า โดยรวมและราย ด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านการบริหารงานบุคคลที่ไม่แตกต่าง กัน 22 การเปรียบเพืยบการบวิหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาชั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตาม ตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และขนาดของสถานศึกษา ประชากร ได้แก่ ผู้บริหาร สถานศึกษาและครูผู้สอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาษามัธมศึกษา นครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 347 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางเครจขี่และมอร์ ส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีระดับความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน F-test และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษานครราชสีมา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการบริหารงานบุคคล รองลงมา ได้แก่ ด้านการบริหารงานวิชาการ และด้าน การบริหารงานงบประมาณ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดได้แก่ ด้านการบริหารงานทั่วไป 2. การเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาชั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และ ขนาดของถานศึกษา 2.1 การเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามตำแหน่ง พบว่า โดยรวมและราย ด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านการบริหารงานบุคคลที่ไม่แตกต่าง กัน 22 การเปรียบเพืยบการบวิหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาชั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.3 การเปรียบเทียบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา จำแนกตามขนาดสถานศึกษา พบว่า โดยรวม ไม่ต่างกัน ยกเว้นด้านการบริหารงานบุคคลและด้านการบริหารงานทั่วไปแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 |