การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับ ก่อนเรียน จากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน เรื่องการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้น จัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน เรื่องการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ(2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 หลังจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน กับเกณฑ์ร้อยละ 75 การวิจัยนี้ใช้แบบ แผนการวิจัยแบบ One Group Pretest - Posttest Design กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหาดคัมภีร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 23 คน ที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random) Sampling) เครื่องมือการวิจัยคือ (1) แผนจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (2) แบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องวงจรไฟฟ้า ได้ค่าความยาก (P) 0.35 ถึง 0.80 ค่า อำนาจจำแนก (B) 0.21 ถึง 0.48 และ ความเชื่อมั่น 0.82 และ (3) แบบประเมินความสามารถใน การทำโครงงาน ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.80 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และการทตสอบ t (Paired Samples และ One Sample) ผลการวิจัยสรุปได้ว่า 1. ผลรัมฤทธิ์ทางการเรียมหลังเรียจาการจัดการเวียมรู้แบบใช้โครรรฐาน เรื่องาร ต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลสัมฤทฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบใช้ โครงงานเป็นฐาน เรื่องการต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งยอมรับสมมติฐานขัอที่ 1 2. ความสามารถในการทำโครงงาน โดยใช้จากการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน เรื่องการต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งยอมรับสมมติฐานข้อที่ 2 |