การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของชุดการฝึกแบบบบบาผรมสมามเสม ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E:/ Ez เท่ากับ 80/80 และ (2) เพื่อเปรียบเทียบความคล่องแคล่วว่องไว ระหว่างก่อนและหลังการใช้ชุดการฝึกแบบผสมผสานของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงระดับอายุ 13 ปี รูปแบบการวิจัยคือการทดลองกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างคือ นักกีฬา วอลเลย์บอลหญิงอายุ 13 ปี จำนวน 20 คน โรงเรียนเทศบาลหนองหัวฟาน จังหวัดนครราชสีมา เครื่องมือการวิจัยคือ (1) ชุดการฝึกแบบผสมผสาน (integrated training set) และ(2) แบบทดสอบ ทดสอบความว่องไวของอิลลินอยส์ (Illinois aglity run test) สถิติวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบที่ (แบบdependent sample) ผลการวิจัยพบว่า (1) การใช้ชุดการฝึกแบบผสมผสานมีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.28/88 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (2) ผลการเปรียบเทียบระดับความคล่องแคล่วว่องไวก่อนและหลัง การใช้ชุดการฝึกแบบผสมผสานของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงอายุ 13 ปีจากการทดสอบ Ilincis Aglity Run test ก่อนใช้ชุดการฝึกแบบผสมผสานมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 19.7 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 2.07 หลังใช้ชุดการฝึกแบบผสมผสานมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 30.8 ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.98 มีส่วนต่างของค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.91 หลังการฝึกตามชุดการฝึกแบบผสมสานใช้เวลาน้อยกว่าและคะแนนมากกว่าก่อนได้รับการฝึก จากชุดการฝึกแบบผสมผลานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติติที่ระดับ.01 |