การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ MIA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนเทียบเกณฑ์ร้อยละ 70 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ MIA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ MIA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านยางเครือ-ด่านน้อย อำเภอสุรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน13 คน เครื่องมือที่ใช้ใช้ในการจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ MIA (2) แบบทดลอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ (3) แบบทดลอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สถิติการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที่ ผลการวิจัยพบว่า (1) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยใช้ วิธีการสอนแบบ MIA หลังเรียนมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติติติติที่ ระดับ .05 (2) การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการ สอนรูปแบบ MIA หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (3) นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบ MIA โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด |