การวิจักครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อเปรียบเทือนเต็มฤทธิ์ทางการการวิชาการาธาไทย
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับ
เทคนิคการใช้คำถาม (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถามเทียบกับ
เกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการ
เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโนนทองหลาง กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน โดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม
เครื่องมือการวิจัย คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม
วิชาภาษาไทย จำนวน 9 แผน (2) แบบทตสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และ (3)
แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิค
การใช้คำถาม สถิติวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และและการทดสอบที
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังได้รับการ
จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม มีคะแนนสูงกว่าก่อนการจัดการ
เรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังได้รับการ
จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม มีคะแนนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรือนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียบรู้แบบชั้นเป็นเสาสาวเสาวหาาาาา
ความรู้ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม อยู่ในระดับมากที่สุด